2. เหตุผลข้อใดถูกต้องที่สุดของแม่ค้าขายผักที่ต้องฉีดน้ำพรมผักอยู่เรื่อย ๆ ป้องกันไม่ให้ผักเน่า ช่วยลดความร้อน ต้องการให้น้ำออสโมซิสออกจากเซลล์ผัก ช่วยให้น้ำออสโมซิสเข้าเซลล์ผักและเซลล์เต่ง 3. ถ้านักเรียนต้องการศึกษาโครงสร้างของผนังเซลล์ชัดเจนต้องให้เซลล์อยู่ในสารละลายอย่างไร ให้เซลล์อยู่ในน้ำกลั่น ให้เซลล์อยู่ในสารละลายโซเดียมคลอไรด์ 3% ให้เซลล์อยู่ในสารละลายโซเดียมคลอไรด์ 1% ให้เซลล์อยู่ในสารละลายโซเดียมคลอไรด์ 0.85% 4. ถ้าต้องการให้เกิดปรากฏการณ์พลาสมอปไทซิส (plasmoptysis) ต้องให้เซลล์อยู่ในสารละลายอย่างไร ให้เซลล์อยู่ในน้ำกลั่น ให้เซลล์อยู่ในสารละลายโซเดียมคลอไรด์ 0.85% ให้เซลล์อยู่ในสารละลายโซเดียมคลอไรด์ 2% ให้เซลล์อยู่ในสารละลายโซเดียมคลอไรด์ 5% 5. เซลล์เม็ดเลือดแดงอยู่ในสารละลายใดจึงจะคงสภาพเดิมอยู่ได้ สารละลายโซเดียมคลอไรด์ 0.5% สารละลายโซเดียมคลอไรด์ 0.85% สารละลายโซเดียมคลอไรด์ 5% สารละลายที่มีเฉพาะโมเลกุลของน้ำอย่างเดียว 6. แรงต้านของผนังเซลล์ (wall pressure) มีประโยชน์ต่อพืชอย่างไร ช่วยให้การลำเลียงสารของพืชเกิดได้ดี ป้องกันไม่ให้เซลล์พืชสูญเสียแร่ธาตุออกจากเซลล์ ป้องกันไม่ให้เซลล์สูญเสียน้ำออกจากเซลล์ เป็นแรงต้านไม่ให้เซลล์แตกหรือเหี่ยวเสียรูปทรง 7. ถ้าน้ำเกลือที่ให้คนไข้มีความเข้มข้น 0.1% จะมีผลต่อคนไข้อย่างไร ทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงเหี่ยว ทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงเต่งแต่ไม่แตก ทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงเต่งจนแตกได้ ทำให้น้ำออสโมซิสเข้าและออกจากเซลล์เม็ดเลือดแดงเท่ากัน 8. เมื่อนำเซลล์พืชใส่ลงในน้ำกลั่นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงกับเซลล์อย่างไร เซลล์บวมและแตกออก เซลล์บวมขึ้นเพราะมีแรงดันเต่งแต่เซลล์ไม่แตก เซลล์สูญเสียน้ำและเหี่ยวแฟบลง เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ผนังเซลล์ทำให้น้ำเข้า-ออกจากเซลล์ไม่ได้ 9. นายอองดิน เด็ดใบสาหร่ายหางกระรอก 1 ใบวางลงบนสไลด์ที่มีสารละลายกลูโคส 5% แล้วนำไปศึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์จะพบการเปลี่ยนแปลงตามข้อใด เกิดปรากฏการณ์พลาสโมไลซิส เกิดปรากฏการณ์พลาสมอปไทซิส เกิดปรากฏการณ์ฮีโมไลซิส เกิดปรากฏการณ์เซลล์เต่ง 10. เหตุใดเมื่อน้ำออสโมซิสเข้าสู่เซลล์เม็ดเลือดแดงมากเซลล์จึงแตก เพราะเยื่อหุ้มเซลล์เปราะบาง เพราะเกิดแรงดันเต่งในเซลล์มาก เพราะไม่มีแรงดันต้านจากผนังเซลล์ ถูกทั้งข้อ ก, ข และ ค 11. เซลล์เม็ดเลือดแดงของคนจะมีแรงดันเต่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออยู่ในสารละลายในข้อใด น้ำกลั่น น้ำเกลือ 10% น้ำเชื่อม 5% น้ำเกลือ 0.85% 12. ข้อใดจะเกิดกระบวนการพลาสมอปไทซิส ( Plasmoptysis ) เซลล์เยื่อหอมในสารละลายน้ำตาลกลูโคสี เซลล์เยื่อหอมในน้ำกลั่น เซลล์ว่านกาบหอยในน้ำเกลือ เซลล์ว่านกาบหอยในน้ำเชื่อม 13. ข้อใดหมายถึง แรงดันออสโมติก แรงดันในสาร เพื่อต้านการเคลื่อนที่ของน้ำ แรงดันของน้ำที่เกิดขึ้นภายในเซลล์อันเนื่องจากน้ำแพร่เข้าไป อัตราการไหลของน้ำ เข้าและออกจากเซลล์มีอัตราเท่ากัน แรงดันที่ทำให้เซลล์คงรูปร่างอยู่ได้ ยอดพืชตั้งตรง 14. สารละลายข้อใดมีแรงดันออสโมติกสูง น้ำฝน น้ำกลั่น สารละลายกลูโคส 5% สารละลายกลูโคส 1% 15. เมื่อนักเรียนนำต้นผักกะสังแช่ในสารละลายกลูโคส5% จะพบผลการทดลองตามข้อใด ต้นผักกะสังเต่งคงรูปร่างอยู่ได้ ต้นผักกะสังจะเหี่ยวเพราะสูญเสียน้ำ ต้นผักกะสังจะเหี่ยวระยะแรกต่อมาจะเต่งตั้งตรง ต้นผักกะสังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น 16. ข้อใดแสดงถึงภาวะสมดุลของการแพร่ การแพร่ของน้ำเข้าสู่เซลล์มากกว่าน้ำออกจากเซลล์ การแพร่ของน้ำออกจากเซลล์มากกว่าน้ำเข้าเซลล์์ แรงดันออสโมซิสของสารละลายเท่ากับแรงดันเต่งต่ำสุด การแพร่ของน้ำเข้าสู่เซลล์และออกจากเซลล์มีอัตราเท่ากัน 17. นักเรียนคิดว่าข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของแรงดันเต่ง (Turgor pressure) ทำให้น้ำแพร่เข้าเซลล์ได้มากขึ้น ทำให้ยอดพืชตั้งตรง ทำให้ปากใบเปิดกว้างออก ทำให้ผัก, ผลไม้กรอบน่ารับประทาน 18. การที่หยดน้ำเกลือ 0.85% ลงบนสไลด์ เยื่อบุข้างแก้มของคนนั้นกระทำเพื่อจุดประสงค์ใด ช่วยให้เซลล์ติดไอโอดีนชัดเจนขึ้น ทำให้นิวเคลียสเต่ง มองเห็นได้ชัดเจน รักษาสภาพของเซลล์ให้ปกติไม่เปลี่ยนรูปร่าง ช่วยให้เซลล์แยกเป็นเซลล์เดี่ยว ๆ ได้รวดเร็ว 19. เมื่อนำสาหร่ายเทาน้ำ (spirogyra) แช่ลงในน้ำปะปา พบว่าเซลล์ของเทาน้ำจะเต่งขึ้นมา กระบวนการเริ่มแรกที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ คือ การแพร่ ออสโมซิส พลาสโมไลซิส แรงดันเต่ง (Turgor pressure) 20. ถ้าความเข้มข้นของสารละลายภายในเซลล์เม็ดเลือดแดง เท่ากับ 0.9 M สารละลายใดต่อไปนี้จะทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงเกิด Haemolysis 0.2 M 0.9 M 1.6 M 3.0 M
Score = Correct answers: จัดทำโดย : ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข